การตอบสนองสามแบบต่อทอีซาอัล-มะซีฮฺ

เรื่อง​ที่ 15

ยะหฺยา 9:1-41

1ขณะที่อีซาเดินไปตามทางนั้น เห็นชายคนหนึ่งตาบอดตั้งแต่กําเนิด 2พวกสาวกของท่านถามท่านว่า “อาจารย์ ใครทําบาป คนนี้หรือพ่อแม่ของเขา เขาถึงเกิดมาตาบอด?” 3อีซาตอบว่า “ไม่ใช่คนนี้หรือพ่อแม่ของเขาที่ทําบาป แต่เขาเกิดมาตาบอดเพื่อให้พระราชกิจของอัลลอฮฺปรากฏในตัวเขา 4เราต้องทําพระราชกิจของผู้ทรงส่งเรามาเมื่อยังกลางวันอยู่ กลางคืนอันเป็นเวลาที่ไม่มีใครทํางานนั้นกําลังใกล้เข้ามา 5ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลกดุนยาเราก็เป็นความสว่างของโลกดุนยา” 6เมื่อกล่าวอย่างนั้นแล้ว ท่านก็บ้วนน้ำลายลงท่ีดิน แล้วเอาน้ำลายนั้นทําเป็นโคลนทาที่ตาของคนตาบอด 7 แล้วสั่งเขาว่า“จงไปล้างโคลนออกในสระสิโลอัม” (สิโลอัมแปลว่า ส่งไป) เขาจึงไปล้างแล้วกลับมาก็มองเห็น 8เพื่อนบ้านและบรรดาคนที่เคยเห็นชายคนนั้นเป็นคนขอทานมาก่อนก็พูดกันว่า “คนนี้ใช่ไหมที่เคยนั่งขอทาน?” 9บางคนก็พูดว่า “ใช่คนนั้นแหละ” บางคนก็ว่า “ไม่ใช่แต่เขาเหมือนคนนั้น” ส่วนตัวเขาเองพูดว่า “ข้าพเจ้าคือคนนั้น” 10พวกเขาจึงถามเขาว่า “ตาของเจ้าหายบอดได้อย่างไร?” 11เขาตอบว่า “ชายคนหนึ่งชื่ออีซาทําโคลนทาตาของข้าพเจ้าและบอกข้าพเจ้าว่า ‘จงไปที่สระสิโลอัมแล้วล้างโคลนออก’ ข้าพเจ้าก็ไปล้างตาแล้วก็มองเห็น” 12พวกเขาจึงถามว่า “เขาอยู่ไหน?” คนนั้นบอกว่า “ข้าพเจ้าไม่ทราบ”

13พวกเขาจึงพาคนที่เคยตาบอดนั้นไปหาพวกฟาริสี 14วันที่อีซาทําโคลนทาตาชายคนนั้นให้หายบอดเป็นวันบริสุทธิ์ 15พวกฟาริสีถามเขาว่าตาของเขามองเห็นได้อย่างไร เขาจึงบอกคนเหล่านั้นว่า “ท่านเอาโคลนทาตาของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าก็ไปล้างออกแล้วก็มองเห็น” 16พวกฟาริสีบางคนพูดว่า “ชายคนนี้ไม่ได้มาจากอัลลอฮฺ เพราะเขาไม่ได้รักษาวันบริสุทธิ์” แต่คนอื่นพูดว่า “คนบาปจะสําแดงสัญญาณอย่างนั้นได้อย่างไร?” พวกเขาก็ขัดแย้งกัน 17พวกเขาจึงพูดกับคนตาบอดอีกว่า “เจ้าคิดอย่างไรเรื่องคนนั้น ในเมื่อเขาทําให้ตาของเจ้าหายบอด?” ชายคนนั้นตอบว่า “ท่านเป็นนบี”

18พวก​ยา‌ฮู‌ดี​ไม่​เชื่อ​ว่า​ชาย​คน‍นั้น​ตา‍บอด​และ​กลับ​มอง​เห็น จน​กระ‌ทั่ง​พวก​เขา​เรียก​บิดา​มาร‌ดา​ของ​คน​นั้น​มา 19แล้ว​ถาม​ว่า “ชาย​คน‍นี้​เป็น​ลูก​ของ​เจ้า​ที่​เจ้า​บอก​ว่า​ตา‍บอด​มา​ตั้ง​แต่​เกิด​หรือ? แล้ว​ทำ‍ไม​เดี๋ยว‍นี้​เขา​จึง​มอง​เห็น?” 20บิดา​มาร‌ดา​ของ​ชาย​คน‍นั้น​ตอบ​ว่า “เรา​รู้​ว่า​คน‍นี้​เป็น​ลูก​ของ​เรา และ​รู้​ว่า​เขา​เกิด​มา​ตา‍บอด 21แต่​ไม่​รู้​ว่า​ทำไม​เดี๋ยว‍นี้​เขา​ถึง​มอง​เห็น​หรือ​ใคร​ทำ​ให้​ตา​ของ​เขา​หาย​บอด ถาม​เขา​เอา​เอง​เถิด เขา​เป็น​ผู้‍ใหญ่​แล้ว เขา​เล่า​เรื่อง​เอง​ได้” 22การ​ที่​บิดา​มาร‌ดา​ของ​เขา​พูด​อย่าง​นั้น​ก็​เพราะ​กลัว​พวก​ยา‌ฮู‌ดี เพราะ​พวก​ยา‌ฮู‌ดี​ตก‍ลง​กัน​แล้ว​ว่า ถ้า​ใคร​ยอม​รับ​ว่า​อีซา​เป็น​อัล-‍มะซีฮฺ คน​นั้น​จะ​ถูก​ขับ​ออก​จาก​ธรรม‍ศาลา 23เพราะ​เหตุ​นี้​บิดา​มาร‌ดา​ของ​เขา​จึง​พูด​ว่า “เขา​เป็น​ผู้‍ใหญ่​แล้ว ถาม​เขา​เอา​เอง​เถิด”

24พวก​เขา​จึง​เรียก​คน​ที่​เคย​ตา‍บอด​ให้​มา​หา​เป็น​ครั้ง​ที่‍สอง​และ​บอก​เขา​ว่า “จง​เทิด​พระ​เกียรติ​แด่​อัล‍ลอฮฺ เรา​รู้​ว่า​ชาย​คน‍นั้น​เป็น​คน‍บาป” 25เขา​ตอบ​ว่า “ชาย​คน​นั้น​เป็น​คน‍บาป​หรือ​ไม่​ข้าพ‌เจ้า​ไม่​ทราบ สิ่ง​เดียว​ที่​ข้าพ‌เจ้า​ทราบ​คือ​ข้าพ‌เจ้า​เคย​ตา‍บอด แต่​เดี๋ยว‍นี้​ข้าพ‌เจ้า​มอง​เห็น​ได้​แล้ว” 26พวก​เขา​จึง​ถาม​เขา​ว่า “คน​นั้น​ทำ​อะไร​กับ​เจ้า? เขา​ทำ​อย่าง‍ไร​ตา​ของ​เจ้า​ถึง​หาย​บอด?” 27คน‍นั้น​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “ข้าพ‌เจ้า​บอก​ท่าน​แล้ว​แต่​ท่าน​ไม่​ฟัง ทำ‍ไม​ท่าน​ถึง​อยาก​ฟัง​อีก? อยาก​เป็น​ศิษย์​ของ​คน​นั้น​ด้วย​หรือ?” 28คน​เหล่า​นั้น​จึง​เยาะ‍เย้ย​เขา​ว่า “เอ็ง​เป็น​ศิษย์​ของ​เขา แต่​เรา​เป็น​ศิษย์​ของนบี​มู‌ซา 29เรา​รู้​ว่า​อัล‍ลอฮฺ​ตรัส​กับ​นบีมู‌ซา แต่​สำ‌หรับ​คน‍นั้น​เรา​ไม่​รู้​ว่า​มา​จาก​ไหน” 30ชาย​คน‍นั้น​ตอบ​ว่า “เออ ประ‌หลาด​จริงๆ นะ​ที่​พวก​ท่าน​ไม่​รู้​ว่า​คน​นั้น​มา​จาก​ไหน แต่​เขา​ก็​ทำ​ให้​ตา​ของ​ข้าพ‌เจ้า​หาย​บอด​ได้ 31เรา​รู้​ว่า​อัล‍ลอฮฺ​ไม่​ทรง​ฟัง​คน‍บาป แต่​ทรง​ฟัง​คน​ที่​ยกย่อง​เทิดทูน​พระ‍องค์​และ​ทำ​ตาม​พระ‍ประ‌สงค์​ของ​พระ‍องค์ 32ตั้ง‍แต่​สมัย​ไหนๆ ก็​ไม่​เคย​มี​ใคร​ได้​ยิน​ว่า​มี​คน​สา‌มารถ​ทำ​ให้​ตา​ของ​คน​ที่​บอดตั้ง​แต่​กำ‌เนิด​มอง​เห็น​ได้ 33ถ้า​คน​นั้น​ไม่​ได้​มา​จาก​อัล‍ลอฮฺ เขา​จะ​ไม่​สา‌มารถ​ทำ​ได้” 34พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เอ็ง​มัน​บาป​มา​ตั้ง‍แต่​เกิด​แล้ว​ยัง​จะ​มา​สอน​เรา​หรือ?” แล้ว​พวก​เขา​ก็​ไล่​เขา​ออก​ไป

35อีซาได้ยินว่าพวกยาฮูดีไล่คนนั้นออกไปแล้วเมื่อท่านพบเขาจึงกล่าวกับเขาว่า “ท่านศรัทธาในบุตรมนุษย์หรือ?” 36ชายคนนั้นตอบว่า “ท่านเจ้าข้า ใครคือบุตรมนุษย์ที่ข้าพเจ้าจะศรัทธาได้?” 37อีซากล่าวกับเขาว่า “ท่านเห็นผู้นั้นแล้วคือผู้ที่กําลังพูดอยู่กับท่าน” 38เขาจึงกล่าวว่า “ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าศรัทธาในท่าน” แล้วเขาก็ก้มกราบท่าน 39อีซากล่าวว่า “เราเข้ามาในโลกดุนยาเพื่อการพิพากษา เพื่อให้คนทั้งหลายที่มองไม่เห็นกลับมองเห็น และคนที่มองเห็นกลับตาบอด” 40เมื่อพวกฟาริสีที่อยู่ใกล้ท่านได้ยินอย่างนั้นจึงกล่าวแก่ท่านว่า “เราตาบอดด้วยหรือ?” 41อีซาจึงกล่าวกับพวกเขาว่า “ถ้าพวกท่านตาบอด ท่านก็จะไม่มีบาป แต่พวกท่านพูดเดี๋ยวนี้เองว่า ‘เรามองเห็น’ เพราะฉะนั้นบาปของท่านยังมีอยู่