การฟื้นคืนชีพและขึ้นสู่สรวงสวรรค์ของอีซาอัล-มะซีฮฺ
เรื่องที่ 14
ลูกา 24:1-53
1รุ่งอรุณของวันอาทิตย์นั้นเอง พวกผู้หญิงไปที่กุโบร เอาเครื่องหอมที่ตนเตรียมไว้ไปด้วย 2แต่พอไปถึงกุโบร ก็พบว่าหินใหญ่ที่ปิดปากกุโบรนั้นกลิ้งออกจากที่แล้ว 3จึงพากันเดินเข้าไปข้างในแต่ไม่พบศพอีซาผู้เป็นเจ้านาย 4เขายืนงงอยู่ไม่รู้จะทําอย่างไรดี ทันใดนั้น มีชายสองคนสวมเสื้อผ้าเป็นประกายวับมายืนอยู่ข้างเขา 5พวกผู้หญิงพากันตกใจกลัวจนตัวสั่น ฟุบลงกับพื้นชายนั้นบอกเขาว่า “ทําไมจึงมองหาคนเป็นในหมู่คนตายเล่า? 6ท่านไม่ได้อยู่ท่ีนี่ แต่ฟื้นขื้นจากความตายแล้ว จําที่อีซากล่าวกับพวกท่านเมื่ออยู่ท่กาลิลีไม่ได้หรือ ที่กล่าวว่า 7‘บุตรมนุษย์จะต้องถูกจับส่งไปให้มนุษย์ใจบาปตรึงไว้กับไม้กางเขน และวันที่สามจะฟื้นขื้นจากความตาย’” 8แล้วพวกผู้หญิงก็นึกขื้นมาได้ 9จึงชวนกันกลับออกไปจากกุโบร เล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้สาวกทั้งสิบเอ็ดคนและคนอื่นๆ ฟัง 10พวกผู้หญิงเหล่านี้มี มัรฺยัมชาวมักดาลา โยอันนากับมัรฺยัมมารดาของยะอฺกูบ พร้อมกับผู้หญิงอื่นๆ อีก ที่มาเล่าเหตการณ์นั้นแก่พวกซอฮาบะฮฺ 11แต่พวกซอฮาบะฮฺคิดว่าคนเหล่านี้พูดเหลวไหลจึงไม่เชื่อ 12ส่วนเปโตรวิ่งไปที่กุโบร เมื่อถึงแล้วเขาก้มลงตรวจดู ก็เห็นแต่ผ้าพันศพอยู่ในกุโบร ไม่ได้เห็นอะไรอย่างอื่นอีก เขาจึงกลับบ้าน นึกแปลกใจในสิ่งที่เกิดขื้นทั้งหมดนั้น
13ในวันเดียวกันนั้นเองสาวกสองคนของอีซากําลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเอมมาอูส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มราวๆ สิบเอ็ดกิโลเมตร 14ระหว่างที่เดินไปก็คุยกันไปถึงเรื่องท่ีเกิดขึ้นนั้น 15ขณะที่คุยกันไปโต้ตอบกันไป อีซาก็มาใกล้แล้วเดินไปกับเขา 16ทั้งสองคนเห็นท่าน แต่มีบางอย่างทําให้เขาจําท่านไม่ได้ 17อีซาถามเขาว่า “นี่ พวกท่านกําลังเดินพูดถึงเรื่องอะไรกัน?” ทั้งสองคนก็หยุดยืน หน้าตาโศกเศร้า 18คนหนึ่งชื่อเคลโอปัสหันไปพูดว่า “ท่านเป็นคนเดียวในกรุงเยรูซาเล็มหรือที่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองสามวันมานี้?” 19อีซาถามว่า “เรื่องอะไร?” เขาตอบว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นแก่อีซาชาวนาซาเร็ธซึ่งเป็นนบี ท่านนี้มีฤทธานุภาพในคําพูดและในการกระทํา ซึ่งอัลลอฮฺทรงให้แก่ท่าน คนทั้งปวงก็เห็น 20พวกผู้นําทางศาสนาและพวกหัวหน้าชาวยาฮูดีได้มอบท่านให้เจ้าเมืองปีลาตประหารชีวิต ท่านจึงถูกตรึงกับไม้กางเขน 21พวกเราหวังกันว่าท่านจะเป็นผู้มาปลดปล่อยพงศ์พันธุ์ของนบียะอฺกูบ นอกจากนั้น นี่เป็นวันที่สามแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น 22พวกผู้หญิงบางคนในหมู่พวกเราทําให้เราแปลกใจมาก ตอนเช้าตรู่ เขาไปที่กุโบร 23แต่ไม่พบศพของท่าน เขากลับมาเล่าว่าเขาเห็นมลาอิกะฮฺมาปรากฏพูดว่า ท่านฟื้นขึ้นจากความตาย 24พวกเราบางคนไปดูที่กุโบรก็พบเหมือนที่พวกผู้หญิงเล่า แต่ไม่มีใครเห็นท่าน” 25แล้วอีซากล่าวกับเขาว่า “ท่านนี่ช่างเขลาเหลือเกิน ทําไมจึงเชื่อคําของบรรดานบียากอย่างนี้ 26อัล-มะซีฮฺจําเป็นต้องทนทุกข์เช่นนี้ แล้วจึงได้รับศักดิ์ศรีของท่านไม่ใช่หรือ?” 27แล้วอีซาอธิบายคัมภีร์บริสุทธิ์ที่กล่าวถึงท่านเองทุกข้อ เริ่มต้นตั้งแต่มูซาและบรรดานบีทั้งหมด
28เมื่อพวกเขาเดินมาใกล้จะถึงหมู่บ้านเอมมาอูส อีซาทําเหมือนดังว่าจะเลยไป 29แต่เขายึดท่านไว้ ชวนว่า “ค้างคืนเสียกับพวกเราเถิด เพราะนี่จะใกล้ค่ำอยู่แล้ว” 30ท่านจึงเข้าไปพักกับเขา นั่งร่วมโต๊ะอาหารแล้วหยิบขนมปังขึ้นมากล่าวขอชุโกธต่ออัลลอฮฺ แล้วหักออกแจกให้เขา 31แล้วทั้งสองคนก็ตาสว่างจําท่านได้ แต่ท่านหายลับไปเสียแล้ว 32เขาบอกกันอย่างตื่นเต้นว่า “เมื่อตอนที่ท่านเดินอธิบายคัมภีร์บริสุทธิ์ให้เราฟังตามทางนั้น ใจเราเร่าร้อนเหมือนถูกไฟเผา” 33เขารีบเดินทางกลับกรุงเยรูซาเล็ม พบสาวกสิบเอ็ดคนกับคนอื่นๆ ชุมนุมกันอยู่ที่นั่น 34คนเหล่านั้นเล่าว่า “อีซาผู้เป็นเจ้านายฟื้นขึ้นมาจากความตายจริงๆ และได้ปรากฏแก่ซีโมน” 35แล้วทั้งสองคนก็เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามทางว่า เขาจําอีซาได้ขณะที่ท่านหักขนมปัง
36ขณะที่เขากําลังเล่าให้สาวกทั้งหลายฟังอยู่ ทันใดนั้นอีซามายืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา กล่าวว่า “อัสลามมูอาลัยกุม” 37ทุกคนทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว เพราะคิดว่าเห็นผี 38แต่อีซากล่าวกับเขาว่า “ตกใจกันทําไม? ทําไมจึงมีใจสงสัย? 39มองดูที่มือที่เท้าของเราซิ แล้วจะเห็นว่าเป็นเราเอง จับดูซิแล้วจะได้รู้แน่ เพราะผีไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูก ไม่เหมือนที่ท่านเห็นเราอยู่นี้” 40พอกล่าวแล้วก็ให้เขาดูมือและเท้าของท่าน 41แต่เขาก็ยังไม่เชื่อสนิท ทุกคนทั้งยินดีและอัศจรรย์ใจ แล้วท่านจึงถามพวกเขาว่า “พวกท่านมีอะไรกินบ้างเล่า?” 42พวกสาวกก็ส่งปลาที่สุกแล้วชิ้นหนื่งให้ 43ซื่งท่านก็รับเอามารับประทานต่อหน้าเขา
44แล้วท่านกล่าวกับพวกสาวกว่า “เราขอบอกพวกท่านในระหว่างที่เรายังอยู่กับพวกท่านว่า ทุกอย่างที่เขียนไว้เกี่ยวกับเราในชารีอะฮ์ของมูซาก็ดีคัมภีร์ของบรรดานบีก็ดี และคัมภีร์ซะบูรฺก็ดีต้องเป็นจริงตามนั้น” 45แล้วท่านช่วยให้ใจของพวกเขาสว่างเพื่อจะได้เข้าใจคัมภีร์บริสุทธิ์ 46กล่าวแก่เขาว่า “ในคัมภีร์บริสุทธิ์มีเขียนไว้ว่า อัล-มะซีฮฺจะต้องถูกทรมานและในวันทีสามจะฟื้ขื้นจากความตาย 47เรื่องการเตาบะฮฺตัวเสียใหม่และการยกโทษบาป จะต้องประกาศไปทั่วทุกชาติทุกภาษาในนามของท่านเริ่มต้นที่กรุงเยรูซาเล็มก่อน 48พวกท่านจะเป็นพยานถึงสิ่งเหล่านี้ 49เราเองจะมอบสิ่งที่พระบิดาของเราทรงสัญญาจะประทานแก่พวกท่าน แต่พวกท่านต้องคอยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก่อน จนกว่าฤทธานุภาพจากเบื้องบนจะลงมาเหนือท่าน”
50แล้วท่านพาพวกสาวกออกไปจากเมือง ไปถึงหมู่บ้านเบธานีที่นั่นท่านยกมือขื้นขอดุอาอ์ให้พวกเขา 51ขณะที่ยังขอดุอาอ์อยู่ท่านก็ถูกรับขื้นไปสู่รวงสวรรค์ 52พวกเขาก้มกราบต่อท่าน แล้วกลับเข้ากรุงเยรูซาเล็มด้วยความปลาบปลื้ม 53พวกเขาอยู่ในพระวิหารเป็นประจํา เพื่อสรรเสริญอัลลอฮฺ