การทรยศและการจับกุมท่านอีซา

เรื่อง​ที่ 12

ลูกา 22:47-54

47อีซากล่าวยังไม่ทันขาดคํา ก็มีคนหมู่หนึ่งมาถึง ยูดาสซึ่งเป็นสาวกคนหนึ่งในสิบสองคนเป็นผู้นําคนพวกนั้นมา เขาตรงเข้ามาจูบอีซา 48แต่อีซาถามเขาว่า “ยูดาส จะทรยศบุตรมนุษย์ด้วยการจูบหรือ?” 49เมื่อพวกสาวกที่อยู่ด้วยเห็นว่าจะเกิดเหตุอะไรต่อไปก็ถามท่านว่า “ท่านเจ้าข้าให้เราเอาดาบฟันเขาไหม?” 50คนหนึ่งในพวกสาวกฟันทาสของหัวหน้าทางศาสนาหูขวาขาด 51แต่อีซาห้ามว่า “พอแล้ว” แล้วท่านแตะหูชายนั้นรักษาเขาให้หาย 52แล้วอีซากล่าวแก่พวกผู้นําทางศาสนากับเจ้าหน้าที่รักษาพระวิหาร และพวกผู้ใหญ่ของชาวยาฮูดีที่พากันมาจับท่านว่า “ทําไมจึงถือดาบถือกระบองมาจับเราเหมือนว่าเราเป็นโจร? 53เราอยู่กับพวกท่านในพระวิหารทุกวัน ทําไมไม่จับเรา แต่บัดนี้เป็นโอกาสของพวกท่าน อํานาจมืดกําลังครองอยู่”

54เขาจับอีซาพาไปที่บ้านของหัวหน้าทางศาสนา เปโตรตามไปห่างๆ

ลูกา 22:63-71

63พวกที่คุมอีซาพากันเยาะเย้ยและเฆี่ยนตีท่าน 64เขาเอาผ้าปิดตาท่าน ถามว่า “ทายซิว่าใครเป็นคนตี?” 65แล้วเขาพูดเหยียดหยามท่านอีกหลายอย่าง

66พอสว่างพวกผู้ใหญ่ของประชาชน ผู้นําทางศาสนากับธรรมาจารย์ มาพร้อมหน้ากัน มีคนนําอีซามายังที่ประชุมของพวกเขา 67“ไหน บอกมาซิ” เขาซัก “ว่าท่านเป็นอัล-มะซีฮฺหรือ?” อีซาตอบว่า “ถ้าเราบอกว่าใช่พวกท่านก็คงไม่เชื่อ” 68และถ้าเราถามคําถามท่าน ท่านก็จะไม่ตอบเรา 69อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นี้ไป เราผู้เป็นบุตรมนุษย์จะนั่งอยู่เบื้องขวาของอัลลอฮฺผู้ทรงฤทธานุภาพ” 70“พวกเขาต่างถามว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นอัล-มะซีฮฺผู้เป็นบุตรของอัลลอฮฺหรือ?” อีซาตอบพวกเขาว่า “ก็ท่านพูดถูกแล้วว่าเราเป็น” 71คนเหล่านั้นจึงพูดว่า “เราไม่ต้องการพยานอีกแล้วเราทุกคนก็ได้ยินกับหูของเราเองแล้วนี่”

ลูกา 23:13-35

13ปีลาตเรียกพวกผู้นําทางศาสนา พวกหัวหน้าชาวยาฮูดีและประชาชนมาพร้อมกัน 14กล่าวว่า “พวกท่านนําชายผู้นี้มาให้เราโดยกล่าวหาว่า เขาปลุกปั่นประชาชนอย่างผิดๆ นี่เราก็ได้สอบสวนเขาแล้วต่อหน้าพวกท่าน ไม่เห็นว่าเขาทําผิดตรงไหน หรือทําสิ่งเลวร้ายดังที่พวกท่านกล่าวหา 15เฮโรดก็ไม่ได้พบว่าชายผู้นี้ผิด จึงส่งกลับมาให้เรา ชายผู้นี้ไม่ได้ทําสิ่งที่สมควรจะถูกประหารชีวิตเลย 16เราจะสั่งให้เฆี่ยนเขา แล้วปล่อยตัวไป”

18แต่มหาชนกลับโห่ร้องตะโกนเอ็ดอึงว่า “ฆ่าเขาเสีย ปล่อยบารับบัสให้พวกเรา” 19(บารับบัสถูกจับขังคุกเพราะฆ่าคนตายและก่อการจลาจลในเมืองนั้น) 20ปีลาตอยากจะปล่อยตัวอีซา ท่านจึงพูดกับมหาชนอีก 21แต่พวกเขากลับตะโกนว่า “เอาตัวเขาไปตรึงที่ไม้กางเขน เอาไปตรึงเสีย” 22ปีลาตถามคนทั้งหลายเป็นครั้งที่สามว่า “เขาทําผิดอะไรร้ายแรงเล่า? เราไม่เห็นว่าเขาทําผิดอะไรที่สมควรจะต้องตายเลย เราจะเฆี่ยนเขาแล้วปล่อยตัวไป” 23แต่ทุกคนยังตะโกนสุดเสียงให้เอาอีซาไปตรึงไว้กับไม้กางเขน ในที่สุดเสียงของมหาชนก็ชนะ 24ปีลาตจึงตัดสินอีซาตามที่พวกเขาขอ 25ท่านปล่อยชายคนที่ประชาชนต้องการให้เป็นอิสระ ซึ่งถูกจับขังคุกฐานก่อการจลาจลและฆ่าคนตาย แล้วปีลาตก็มอบอีซาให้พวกเขาทําตามใจชอบ

26เขาพาอีซาออกไป ตามทางเขาพบชายคนหนึ่งชื่อซีโมน เป็นชาวไซรีนกําลังเดินเข้าเมือง เขาจึงบังคับให้ซีโมนแบกไม้กางเขนเดินตามอีซาไป 27ผู้คนพากันเดินตามอีซาไปอย่างเนืองแน่น มีพวกผู้หญิงหลายคนเดินตามไปด้วย พลางร้องไห้สงสารท่าน 28อีซาจึงหันไปปลอบเขาว่า “หญิงชาวเยรูซาเล็มเอ๋ยอย่าร้องไห้สงสารเราเลย จงร้องไห้สงสารตัวเองกับลูกๆ เถิด 29เพราะวันคืนใกล้เข้ามาแล้วที่ผู้คนจะพากันพูดว่า ‘หญิงที่เป็นหมัน หญิงที่ไม่เคยมีลูก และหญิงที่ไม่เคยเลี้ยงลูกอ่อน ก็เป็นสุข’

30เวลานั้นแหละผู้คนจะพากันขอร้องภูเขาว่า

‘พังทับเราทีเถอะ’
และวิงวอนหินผาว่า
‘ช่วยซ่อนเราหน่อย’

31เพราะถ้าเขาทําอย่างนี้ในเวลาที่ต้นไม้เขียวชอุ่มอยู่ในเวลาที่กิ่งไม้แห้งกรอบเล่า จะถูกทํารุนแรงกว่านั้นสักเพียงไหน?”

32พวกเขาพาผู้ร้ายอีกสองคนมาด้วย เพื่อประหารเสียพร้อมกับอีซา 33เขาพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่เรียกเนินหัวกระโหลก แล้วเอาอีซาไปตรึงไว้ที่นั่น และตรึงผู้ร้ายสองคนนั้นไว้ทางด้านซ้ายของท่านคนหนึ่ง ด้านขวาคนหนึ่ง 34อีซากล่าวว่า “พระบิดาเจ้าข้า โปรดยกโทษให้เขาด้วย เพราะเขาไม่รู้ว่าเขากําลังทําอะไร” คนเหล่านั้นจับฉลากเพื่อแบ่งเสื้อผ้าของอีซา 35มีผู้คนมากมายยืนดูอยู่ในขณะที่พวกผู้นําชาวยาฮูดีเยาะเย้ยท่านว่า “เขาช่วยคนอื่นได้นี่นา ก็ให้เขาช่วยตัวเองด้วยซิถ้าหากเขาเป็นอัล-มะซีฮฺผู้ที่อัลลอฮฺทรงเลือกไว้จริงๆ”